Things you need to know
- 1. “หุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรง หลังมีข่าวการเจรจากับยุโรปใกล้บรรลุผล” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 6,358.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.78% โดยตอบรับข่าวดีนอกเหนือจากผลประกอบการไตรมาส 2/2025 ที่ดี เช่น GE Verona, RTX, Alphabet แล้ว ยังมีปัจจัยหนุนจากการใกล้บรรลุผลการเจรจาการค้ากับสหภาพยุโรป โดยสหรัฐฯ จะให้กำแพงภาษีสหภาพยุโรปที่ 15% และสินค้าบางรายการจะมีโควตาภาษีให้ ทั้งนี้เหลือแต่ขั้นตอนสุดท้ายที่รออนุมัติจากประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งนี้ทรัมป์ระบุระหว่างการขึ้นเวทีงานประชุม AI ที่สหรัฐฯ ว่ากำแพงภาษีจะวิ่งอยู่ในกรอบ 15 – 50%
- 2. “หุ้นกลุ่มบริการสุขภาพมูลค่าถูกที่สุดในรอบหลายสิบปี แต่ยังเผชิญหน้าความไม่แน่นอน” สำนักข่าว Reuters ระบุว่ามูลค่าหุ้นของกลุ่มบริการสุขภาพมีราคาถูกที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยปัจจุบันกลุ่มนี้ซื้อขายในราคาเทียบต่อรายได้ในอนาคต 12 เดือนที่ 15.9 เท่า ต่ำกว่าค่าระยะยาวของกลุ่มที่ 11% และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นโลก 20% อย่างไรก็ตามปัจจัยความไม่แน่นอนในนโยบายของสหรัฐฯ เช่น การตั้งกำแพงภาษี 200% สำหรับยาจากต่างประเทศ และนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ ที่ไม่สมเหตุสมผลโดยเฉพาะในประเด็นวัคซีนที่มีการเปลี่ยนคำแนะนำ คือประเด็นสำคัญที่กดดันมูลค่าหุ้นกลุ่มนี้
- 3. “Goldman Sachs ประเมินกำแพงภาษีสหรัฐฯ โดยรวมจะขึ้นแตะระดับ 10-15%” กำแพงภาษีที่ขึ้นดังกล่าวจะกระทบกับเงินเฟ้อและศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ประเมินว่าจะกระทบกับเงินเฟ้อที่แท้จริงโดยรวมที่จะเร่งตัวขึ้น 1.7% ภายใน 2-3 ปีนี้ ซึ่งจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนภายในเดือนที่ 4 หลังการประกาศขึ้นกำแพงภาษี และมองว่า GDP สหรัฐฯ ปีนี้จะเติบโตที่ 1.0% ทั้งนี้ยังคาดการณ์เพิ่มว่ากำแพงภาษียาจะถูกเลื่อนออกไปหลังการเลือกตั้งกลางวาระที่จะเกิดขึ้นในช่วงปีหน้า รวมถึงอาจประกาศกำแพงภาษีกับรถกระบะและเครื่องบินเพิ่มเติมในปีหน้าด้วย
- 4. “Alphabet งบออกมาดีกว่าคาด ประกาศลงทุนเพิ่มเติมด้าน AI” โดยยอดขายรวมไตรมาส 2 ตามปีปฏิทินอยู่ที่ 8.17 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่ตลาดประเมิน (7.96 หมื่นล้าน) สาเหตุสำคัญมาจากยอดขายที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยบริษัทประกาศจะลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณของบริษัทปีนี้ มากกว่าที่ตลาดคาดถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าการลงทุนเพิ่มช่วยทำให้บริษัทรักษาสถานะการแข่งขันเอาไว้ได้
- 5. “งบ Tesla ออกมาแย่ — Elon Musk เตือนบริษัทกำลังลำบาก” โดยรายได้ของบริษัทอยู่ที่ 2.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นกำไรต่อหุ้นในไตรมาสนี้เพียง 40 เซนต์เท่านั้น สาเหตุสำคัญมาจากยอดขายรถที่ลดลง การถูกตัดการสนับสนุนจากภาครัฐ และส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง ทั้งนี้ Elon Musk ออกมาเตือนว่าไตรมาสถัดๆ ไปหลังจากนี้ถือว่ายากลำบากกับบริษัท
|
|