XAM Daily Xpresso/ 8 เมษายน 2025

• “ทรัมป์ระบุ ไม่หยุดใช้กำแพงภาษี 90 วันอย่างแน่นอน พร้อมขู่ขึ้นภาษีจีนอีก 50% - เวียดนามเจรจาไม่เป็นผล หลังสหรัฐฯ ชี้ปล่อยให้เป็นฐานการผลิตของจีน”

• 1. “ทรัมป์ระบุ ไม่หยุดใช้กำแพงภาษี 90 วันตามข่าวลือ - ขู่ขึ้นภาษีจีนอีก 50%” เมื่อคืนนี้ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างกำลังหารือกับนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลที่เดินทางมาหารือที่ทำเนียบขาวว่า ไม่มีแผนหยุดการใช้กำแพงภาษีเป็นเวลา 90 วันตามข่าวลือที่รายงานออกมาก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าพร้อมการเจรจากับทุกประเทศ ซึ่งอาจรวมถึงเรื่องที่ไปมากกว่ากำแพงภาษีก็ได้ นอกจากนั้นทรัมป์ยังระบุเพิ่มเติมว่ากรณีจีนที่ขึ้นกำแพงภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ แล้วนั้น เขาพร้อมขึ้นภาษีอีก 50% เป็นการตอบโต้และยุติการเจรจาทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
• 2. “หุ้นและสินทรัพย์ทั่วโลกปิดปรับตัวลดลง” โดยดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลง -0.23% มาอยู่ที่ 5,062.25 จุด ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ ปิดปรับตัวลดลง -4.38% มาอยู่ที่ 7,702.08 จุด และดัชดี Hang Seng Index ของฮ่องกงปิดปรับตัวลดลง -13.22% มาอยู่ที่ 19,828.30 จุด ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 61.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.19% และตลาด Brent งวดส่งมอบมิถุนายนอยู่ที่ 64.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล -2.09% ปัจจัยสำคัญคือกำแพงภาษีเป็นหลัก อย่างไรก็ตามในกรณีของน้ำมันมีกรณีการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC+ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอีก 4.11 แสนบาร์เรลต่อวันภายในเดือนพฤษภาคมด้วย
• 3. “ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ต่างหาทางออก - ราคาหุ้น Tesla ร่วงลงอีก” ผลกระทบจากกำแพงภาษีของทรัมป์ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายพยายามหาทางออก เช่น Stellantis ที่จะช่วยรับภาระภาษีเพิ่มขึ้นในช่วงแรก หรือ Lamborghini ที่จัดตั้งคณะทำงานคอยติดตามเรื่องกำแพงภาษี ด้านราคาหุ้น Tesla ร่วงลงอีก -2.56% หลังค่าย Wedbush ปรับราคาเป้าหมาย Tesla ลง 43% เหตุผลวิกฤติของแบรนด์จากการกระทำของ Elon Musk
• 4. “Bank of America, Oppenheimer ปรับเป้าดัชนี S&P 500 ลง – BlackRock เตือนอาจลงได้ถึง 20%” โดย Bank of America ปรับเป้าลงเหลือ 5,600 จุดในปีนี้ จากเดิมที่ 6,666 จุด ส่วน Oppenheimer ลดเป้าหมายลงเหลือ 5,950 จุด จาก 7,100 จุด สาเหตุสำคัญมาจากความกังวลของตลาดต่อสงครามการค้าที่เกิดขึ้น ด้าน BlackRock โดยซีอีโอ Larry Fink ออกมาเตือนว่าหุ้นสหรัฐฯ อาจลงได้ถึง 20% นับจากจุดนี้หากสถานการณ์ยังไม่นิ่งพอ ทั้งนี้ ETF ประเภทป้องกันความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง (Tail Risk) ปรับตัวขึ้นราว 20% หลังประกาศกำแพงภาษี
• 5. “ที่ปรึกษารัฐบาลทรัมป์เผย ข้อเสนอเวียดนามไม่เพียงพอ” Peter Navarro ที่ปรึกษารัฐบาลทรัมป์ระบุว่าข้อเสนอของเวียดนามที่จะลดกำแพงภาษีสินค้าสหรัฐฯ ลงเหลือ 0% แลกกับการไม่ใช้ภาษี 46% นั้นไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหามากกว่านั้นคือเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่กำแพงภาษี เช่น การปล่อยให้จีนเข้ามาใช้เป็นฐานการผลิต การขโมยทรัพย์สินทางปัญญา รวมไปถึงการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มในการกีดกันสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลต้องการให้เลิกมาตราการกีดกันเหล่านี้

• “Stagflation, Inflation in US, Everywhere Else Deflation” สถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีต้นทุนนำเข้า และเพิ่มโอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่สถานการณ์ Stagflation หรือเงินเฟ้อสูงการเติบโตต่ำ การลดดอกเบี้ยลงของ FED จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมายที่ 2% ทำให้สินทรัพย์สหรัฐฯ ในฝั่งตราสารหนี้จะได้รับผลลบมากกว่าผลดีในสถานการณ์เช่นนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศอื่นที่เงินเฟ้อลงเร็ว จะเปิดช่องให้ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีมากขึ้น โดยไม่ต้องเสี่ยงกับสถานการณ์ลดดอกเบี้ยแล้วเงินเฟ้อจะสูงยาวนานแบบสหรัฐฯ
• “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ติดตามการเจรจาต่อรองและการตอบโต้กำแพงภาษีของทรัมป์ตลอดสัปดาห์นี้

XSpring AM