Things you need to know
- 1. “ประชุม FOMC เป็นไปตามคาด ลดดอกเบี้ย 0.25% ด้านที่ประชุมคาดลดดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งปีนี้” เมื่อคืนนี้ในการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ทำให้มาอยู่ในช่วง 4.00-4.25% อย่างเป็นทางการ เป็นการเริ่มต้นช่วงลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ด้าน Jerome Powell ประธาน FED และประธานในที่ประชุม ออกมาแถลงข่าวหลังจากการประชุมโดยระบุว่าที่ประชุมกังวลว่าสถานการณ์การจ้างงานของสหรัฐฯ เริ่มอ่อนแอ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ และเงินเฟ้อเริ่มขึ้นสูงอีกครั้ง ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นการขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ทั้งนี้ที่ประชุมประเมินว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้
- 2. “สินทรัพย์เสี่ยงเคลื่อนไหวผันผวน หลังจากประกาศลดดอกเบี้ย” ตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในสภาวะผันผวน โดยดัชนี S&P 500 ของสหรัฐอเมริกาปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย -0.10% ไปอยู่ที่ 6,600.35 จุด หลังจากช่วงต้นของตลาดเปิดมาเป็นบวก ด้านอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวเพิ่มขึ้น นำโดยอายุ 5 ปี ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps (0.06%) ส่วนค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี DXY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.33% แตะระดับ 96.95 จุด มีเพียงดัชนี Dow Jones เท่านั้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.57% ไปอยู่ที่ 46,018.32 จุด
- 3. “รัฐบาลจีนออกคำสั่งห้ามบริษัทจีนซื้อชิปประมวลผลกราฟิกจาก Nvidia” คำสั่งดังกล่าวกระทบไปถึงชิปรุ่น RTX Pro 6000D ที่เป็นชิปใช้ในคอมพิวเตอร์ปกติ แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในงานด้าน AI ได้ด้วย โดยคำสั่งนี้ถูกประกาศออกมาและส่งให้หลายบริษัท รวมถึง Alibaba ด้วย ด้าน Nvidia ออกมาระบุว่าผิดหวังกับคำสั่งดังกล่าว ด้านประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ Mike Johnson ระบุว่าทางการจีนกำลังทำสิ่งที่ไม่เป็นผลดีกับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน
- 4. “ดัชนี Nikkei 225 เปิดตลาดทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง” เมื่อเช้านี้ดัชนี Nikkei 225 เปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 0.6% ก่อนจะลดลงมาเล็กน้อย ทำลายสถิติจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยกลุ่มบริษัทเคมีภัณฑ์และผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับ Semiconductor อย่างเช่น Resonac Holdings, Screen Holdings และ Tokyo Electron ปรับตัวขึ้นแรง ด้านกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยตลาดรอท่าทีจากการประชุม BOJ ที่จะแถลงผลในวันพรุ่งนี้ว่ามีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือไม่
- 5. “Meta เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ วางขายในราคา 799 ดอลลาร์” แว่นตาดังกล่าวเป็นการพัฒนาร่วมกับ Ray-Ban แบรนด์แว่นตารายใหญ่ของโลก โดยมีหน้าจอแสดงผลอยู่บนแว่น และต้องใช้คู่กับสายรัดข้อมือในการวัดกระแสไฟฟ้าจากร่างกาย นอกจากนี้ตัวแว่นยังมีการฝังกล้องเอาไว้ด้วย ผู้ใช้สามารถมีปฎิสัมพันธ์กับข้อมูลบนจอได้ด้วย เริ่มขายสิ้นเดือนนี้ในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ในปีหน้า
|
|