XAM Weekly X- Ray / 13 พฤษภาคม 2025




XAM Shot

  • “สหรัฐฯ และจีน ตกลงลดกำแพงภาษีชั่วคราว 90 วัน ดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกพุ่ง – เศรษฐกิจจีนยังมีปัญหาเงินฝืดต่อเนื่อง ราคาสินค้าหน้าโรงงานลดลงเป็นเดือนที่ 31”

Things you need to know

  • 1. “สหรัฐฯ และจีน ตกลงลดกำแพงภาษีชั่วคราว 90 วัน” เมื่อวานนี้ทางการสหรัฐฯ และจีน ประกาศตกลงลดกำแพงภาษีชั่วคราว โดยสหรัฐฯ จะลดลงเหลือ 30% ส่วนจีนจะลดลงเหลือ 10% เป็นเวลา 90 วันโดยสหรัฐฯ ประกาศว่าจีนยอมพิจารณายกเลิกการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่กำแพงภาษีลงทั้งหมด ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3.26% ไปอยู่ที่ 5,844.19 จุด, ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น 1.43% ไปอยู่ที่ 101.77 จุด และดัชนี NASDAQ 100 ปรับตัวขึ้น 4.02% ไปอยู่ที่ 20,868.15 จุด
  • 2. “ทรัมป์ลงนามในคำสั่งเรียกบริษัทยามาเจรจา” การลงนามในคำสั่งดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเจรจากับบริษัทยาต่างๆ เพื่อลดราคายาที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐฯ ผ่านโครงการต่างๆ ให้มีราคาเท่ากับที่จำหน่ายในต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นจะโดนมาตรการเชิงปกครอง (regulatory measures) ข่าวดังกล่าวสร้างแรงกดดันในช่วงแรกของการเปิดตลาดสำหรับกลุ่มบริการสุขภาพ แต่ท้ายที่สุดหุ้นของบริษัทบริการสุขภาพ อย่างเช่น Eli Lilly, Pfizer หรือ Merck & Co. สามารถกลับมาปิดบวกได้ หลังจากรายละเอียดออกมาชัดเจนขึ้น
  • 3. “SoftBank เปลี่ยนแผนการลงทุนกว่า 1 แสนล้าน หลังประเมินการลงทุนด้าน AI ใหม่” สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าแผนการลงทุนด้าน AI ดังกล่าวถูกทบทวนใหม่หลังจากการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินที่ประกอบด้วย J.P. Morgan และ Apollo หยุดลง เนื่องจากมีการประเมินการเติบโตใหม่ท่ามกลางสภาพตลาดที่ไม่แน่นอนจากสงครามการค้า และความกังวลเรื่องการลงทุนที่มากเกินไปจนเกินความต้องการ (overcapacity)
  • 4. “เศรษฐกิจจีนยังมีปัญหา - เงินฝืดในจีนยังเรื้อรังต่อเนื่อง” ทางการจีนเผยตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอย่างเงียบๆ อยู่ที่ 0.1% MoM/-0.1% YoY ส่วนตัวเลขราคาสินค้าหน้าโรงงาน (PPI) ที่บ่งบอกถึงเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตอยู่ที่ -2.7% YoY สำหรับเดือนเมษายน โดยราคาสินค้าหน้าโรงงานลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 31 แล้ว บ่งบอกถึงสถานการณ์เงินเฟ้อที่ไม่ดีขึ้น ตัวเลขที่ออกมาย่ำแย่ทำให้ทางการจีนต้องประกาศมาตรการกระตุ้น รวมถึงหาทางเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในระยะยาว
  • 5. “ราคาน้ำมันเช้านี้นิ่งขึ้น หลังตลาดกลับมาสนใจตะวันออกกลาง” โดยน้ำมันดิบ WTI ของตลาดสหรัฐฯ ซื้อขายที่แถวระดับ 61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเช้านี้ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อวานนี้ ส่วนน้ำมันดิบ Brent ของอังกฤษซื้อขายที่ระดับ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สาเหตุนอกจากตลาดคลายความกังวลเรื่องจีนกับสหรัฐฯ แล้ว ยังมีประเด็นที่ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าอาจเจรจากับอิหร่าน รวมถึงแผนการเดินทางไปยังตะวันออกกลางที่จะพบกับราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ทั้งนี้สำนักข่าว Bloomberg ประเมินว่า OPEC จะเพิ่มกำลังการผลิตต่อในการประชุมต้นเดือนหน้า และอาจกดราคาน้ำมันลงไปอีก

Daily Trend

  • “ผ่อนคลายชั่วคราว – 90 วัน” ผลการเจรจาที่นครเจนีวาระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้บรรยากาศของตลาดผ่อนคลายในระยะสั้น และทำให้สินทรัพย์เสี่ยงกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามกำแพงภาษีที่ทรัมป์ประกาศใช้ไปแล้วยังถือว่าสูงที่สุดในรอบหลายสิบปี และยังส่งผลกับราคาสินค้าที่ส่งเข้าสหรัฐฯ ทำให้ความพยายามในการลดเงินเฟ้อของ FED อาจช้าลงหลังจากเส้นการปรับคาดการณ์ดอกเบี้ยเริ่มตื้นขึ้นกว่าเดิม เรายังมองว่าเงินเฟ้อในประเทศเกิดใหม่ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีกับ Emerging Markets Bond โดยตรง ทั้งนี้ยังให้จับตาห้วงเวลาอีก 90 วันหลังจากนี้ว่าทางการจีนและสหรัฐฯ จะตกลงกันได้หรือไม่ เพราะตลาดจะอยู่บนความไม่แน่นอนในห้วง 90 วันจากนี้
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เงินเฟ้อทั่วไปตลาดคาด 0.3% MoM/2.5% YoY, อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง คาด 0.2% MoM/2.8% YoY