เอ็กซ์สปริง หรือ XPG กางแผนพัฒนาธุรกิจแบบ “Transformation & Leap Forward” มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร




บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนรุกธุรกิจ พร้อมก้าวสู่กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร ต่อยอดความเชี่ยวชาญโลกการเงินปัจจุบันสู่โลกบริการทางการเงินดิจิทัล โดยวางเป้าเป็นผู้นำธุรกิจการเงินในประเทศไทยด้วย 3 จุดแข็ง “พันธมิตร – เงินทุนแข็งแกร่งจากการเพิ่มทุน  – การมี 17 ไลเซนส์ในมือ” พร้อมก้าวสำคัญในการรุก Digital Financial Service

ในส่วนของการเพิ่มทุน ยังทำให้ เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีสภาพคล่องทางการเงินสูง ด้วยเงินทุนจากสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม 3,094 ล้านบาท และสัดส่วนการเพิ่มทุนอีก 7,111 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีเงินทุนในมือกว่า 10,000 ล้านบาท ที่จะนำไปพัฒนาธุรกิจใน 3 ด้าน อาทิ 1. ธุรกิจดิจิทัล: มุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนรูปแบบดิจิทัล และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจสำหรับบริการด้านการเงิน 2. ธุรกิจปัจจุบัน: ขยายธุรกิจหลักทรัพย์และให้บริการโซลูชันทางการเงินแบบครบวงจรแก่ลูกค้า การสนับสนุนการลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity) การขยายธุรกิจบริหารจัดการกองทุนและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงและความสามารถด้านเทคโนโลยี 3. ชำระคืนเงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

อีกทั้งผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้วยรายได้รวม 167 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 791% ทำให้มั่นใจว่ารายได้และกำไรในปี 2564 จะสูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ และเชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2565 สอดรับกับการขยายตัวของตลาดการเงินดิจิทัลของโลกที่มีมูลค่ารวมกว่า 40 ล้านล้านบาท

สำหรับแผนการรุกธุรกิจภายหลังการเพิ่มทุน เอ็กซ์สปริง กรุ๊ป จะเดินหน้าตามแผนธุรกิจ “Transformation & Leap Forward” เต็มรูปแบบ โดยตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด “XSpring AMC” บริษัทย่อยของ เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ได้ร่วมมือกับแสนสิริ “ร่วมลงทุนในกองสินทรัพย์” ที่ประกอบด้วยลูกหนี้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์และพักอาศัย และสัญญาหลักประกันซึ่งประกอบไปด้วย ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (NPL) เพื่อนำมาบริหารสินทรัพย์ต่อยอดธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่มในระยะยาว รวมทั้งจะรุกธุรกิจ Digital Finance มากขึ้น ผ่าน บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) โดย ICO แรกที่จะออกในปีนี้ คือ “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” (SiriHub Investment Token) ซึ่งเป็น Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจะมีโทเคนดิจิทัลอีก 2 ตัว ที่เตรียมจะออก ICO ในลำดับต่อไป ได้แก่ “Ready to use Utility Token” ที่เตรียมเปิดตัวเป็นครั้งแรกในวงการเอนเตอร์เทนเมนต์ และ EV Charging Ecosystem ของประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้ให้บริการเบอร์หนึ่งด้านการให้บริการชาร์จรถ EV ครบวงจร รวมถึงการเปิดรับคริปโทเคอร์เรนซีในการซื้อที่อยู่อาศัยและชำระค่าส่วนกลางของแสนสิริทุกโครงการ ครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย 

นอกจากนี้ เอ็กซ์สปริง กรุ๊ป ยังมีแผนการเปิดตัวธุรกิจนายหน้าและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker and Dealer) ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และการขอใบอนุญาต Digital Asset Fund Manager ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ และ Open-architecture Licenses เพื่อเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนให้แก่ลูกค้า ตลอดจนการหาโอกาสการลงทุนในบริษัทเอกชนที่มีศักยภาพสูงอีกด้วย