XAM Daily Xpresso/ 15 กรกฎาคม 2025

• “ทรัมป์ขู่เก็บภาษีรัสเซีย 100% ถ้ายังไม่หยุดทำสงครามในยูเครน พร้อมส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น หลังทรัมป์ออกมาระบุพร้อมเจรจากับทุกชาติ”

• 1. “ทรัมป์ขู่เก็บภาษีรัสเซีย 100% ถ้ายังไม่หยุดทำสงครามในยูเครน พร้อมส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง” ท่าทีดังกล่าวมาจากการที่ทรัมป์ไม่พอใจที่รัสเซียไม่ยอมให้ความร่วมมือ ทำให้ประกาศเรื่องดังกล่าวออกมา โดยรัสเซียมีเวลาถึงช่วงต้นเดือนกันยายนเท่านั้นที่จะยุติสงครามในยูเครน ทั้งนี้อาวุธที่ทรัมป์ประกาศว่าจะส่งไปให้ยูเครนหากรัสเซียไม่ยอมหยุดยิงนั้น จะเป็นอาวุธในระดับดีที่สุดของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธแพทริออทด้วย ทั้งหมดนี้ชาติสมาชิก NATO จะร่วมกันลงขันจ่ายเงินให้ ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาด WTI ปรับตัวลดลงจากท่าทีดังกล่าว 2.1% มาซื้อขายอยู่ที่ราว 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะไม่มีมาตรการควบคุมด้านพลังงานออกมา
• 2. “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น หลังทรัมป์ออกมาระบุพร้อมเจรจากับทุกชาติ” นอกจากเรื่องรัสเซียแล้ว ทรัมป์ยังออกมาระบุเพิ่มเติมว่า พร้อมเจรจากับชาติต่างๆ ที่ถูกขึ้นกำแพงภาษีเพิ่มเติม แม้จะออกหนังสือมาแล้วก็ตาม ทำให้ดัชนี S&P 500 เมื่อคืนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.14% ไปอยู่ที่ 6,268.56 จุด ด้านค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.23% โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์อยู่ที่ 98.12 จุด ทั้งนี้ตลาดหุ้นยังรอการประกาศงบไตรมาส 2 ของหลายบริษัท ท่ามกลางความคาดหวังของตลาดที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี
• 3. “Meta ประกาศลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติม พร้อมใช้จ่ายอีกหลายแสนล้านดอลลาร์” Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ระบุเมื่อคืนนี้ว่าบริษัทจะสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติม โดยมีกำลังการใช้ไฟฟ้ารวมกันหลายกิกะวัตต์ และประกาศเพิ่มเติมว่าพร้อมใช้จ่ายอีกหลักหลานแสนล้านดอลลาร์เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขันในการต่อสู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ได้
• 4. “ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนยังน่าเป็นห่วง” โดยเมื่อวานนี้ New World Development บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงไม่สามารถปิดดีลเงินกู้กับ Deutsche Bank ธนาคารจากเยอรมนีได้ ส่วนหนึ่งมาจากผลตอบแทนที่ต่ำเนื่องจากอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยของ HIBOR ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้อายุใดเป็นฐานการคำนวณ ด้าน China Vanke บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนออกคาดการณ์งบครึ่งปีแรก คาดว่าขาดทุนราว 1.2 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.67 พันล้านดอลลาร์) 
• 5. “ราคาโลหะเงินทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 14 ปี” โดยปิดตลาดอยู่ที่ 38.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ แต่ระหว่างช่วงเวลาซื้อขายทำสถิติสูงสุดที่ 39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สาเหตุหนึ่งมาจากความต้องการโลหะเงินเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้อัตราต้นทุนการกู้ยืมเพื่อเปิดสถานะในสัญญาซื้อขายโลหะเงินอายุ 1 เดือน พุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับ 6% จากเดิมที่แทบจะเป็นศูนย์ นอกจากนั้นแล้วยังมีไม่พอกับความต้องการด้วย เนื่องจากกองทุน ETF ต่างๆ โดยเฉพาะในลอนดอน ต่างถือโลหะเงินเป็นสินทรัพย์อ้างอิง ทำให้ไม่พอกับความต้องการ

• “ความผันผวนยังเต็มตลาด” สงครามการค้ายังคงไม่จบลงโดยง่าย โดยปัจจุบันทรัมป์ประกาศกำแพงภาษีให้หลายประเทศเพื่อเร่งการเจรจาให้ทันก่อนเส้นตายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นอกจากนั้นแล้วมูลค่าดัชนีของหลายดัชนี เช่น สหรัฐฯ อินเดีย อยู่ในระดับที่ตึงตัวมากพอสมควร เราประเมินว่าดัชนีหุ้นทั่วโลกยังมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงจากความผันผวนที่ยังมีอยู่ แม้หุ้นสหรัฐฯ ในปัจจุบันจะทำจุดสูงสุดใหม่ไปแล้วก็ตาม นักลงทุนควรหาตลาดหรือดัชนีที่มูลค่ายังไม่ตึงตัวไปก่อนในเวลานี้ ทั้งนี้หากหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง และผลประกอบการของบริษัทอเมริกันยังดี ถือเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีในการพิจารณาลงทุนเพิ่มเติมได้
• “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” GDP ของจีนไตรมาส 2 คาด 5.3% YoY, ตัวเลขค้าปลีกจีนเดือนมิถุนายน คาด 6.1% YoY, เงินเฟ้อสหรัฐฯ คาด 0.2% MoM/2.5% YoY เงินเฟ้อทั่วไป, 0.2% MoM/2.9% YoY เงินเฟ้อพื้นฐาน

XSpring AM