Things you need to know
- 1. “หุ้นสหรัฐฯ เจอแรงเทขายทำกำไร ปรับตัวลดลงเล็กน้อย” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดปรับลดลง 0.11% ไปอยู่ที่ 6,198.01 จุด สาเหตุสำคัญมาจากแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นมาโดยตลอดในช่วงที่ผ่านมา และเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เช่น Amgen, Johnson & Johnson, UnitedHealth เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีความกังวลเรื่องประเด็นภาษีการค้าที่กลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคม ทำให้มีแรงเทขายจากปัจจัยนี้ด้วย ทั้งนี้ TS Lombard ระบุว่าปัจจุบันทิศทางเงินของนักลงทุนต่างชาติผ่านกองทุน ETF สหรัฐฯ ยังคงลดลงต่อเนื่อง
- 2. “Powell ระบุชัด FED อยู่ในจุดลดดอกเบี้ยได้แล้ว แต่เจอกำแพงภาษี” Jerome Powell ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ ตอบคำถามบนเวทีประชุมของ ECB ธนาคารกลางของยุโรปที่โปรตุเกสว่า ถ้าหากไม่มีประเด็นเรื่องกำแพงภาษีการค้า ปัจจุบัน FED จะสามารถลดดอกเบี้ยได้แล้ว โดยยอมรับว่าภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การลดดอกเบี้ยเป็นเรื่องยากเนื่องจากโอกาสที่ภาษีจะส่งผ่านเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและส่งผลให้เงินเฟ้อปรับเพิ่มนั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก เขายังระบุเพิ่มเติมว่าทุกอย่างในตอนนี้ยังขึ้นกับข้อมูลที่จะออกมาในอนาคต
- 3. “ทรัมป์ระบุไม่น่าจะมีข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น – เปิดตลาดเช้านี้ญี่ปุ่นแดงฉาน” ทรัมป์ระบุว่าเขาไม่พอใจที่ญี่ปุ่นไม่ยอมรับข้อเสนอนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ และระบุว่าไม่น่าจะมีข้อตกลงการค้าเกิดขึ้นกับญี่ปุ่นได้ โดยจะเรียกเก็บภาษีการค้าเพิ่มตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ เห็นสมควร ด้านผู้ว่า BOJ ระบุในการประชุมของ ECB ที่โปรตุเกสว่ากำแพงภาษีของสหรัฐฯ มีผลกระทบแง่ลบกับเศรษฐกิจญี่ปุ่น ด้านดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นเช้านี้ TOPIX เปิดตลาด -0.17% มาอยู่ที่ 2,827.30 จุด ส่วนดัชนี NIKKEI เปิดตลาด -0.65% มาอยู่ที่ 39,726.50 จุด
- 4. “ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมคลิปเสียงฮุนเซน” การสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเกิดขึ้นหลังจากการรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปบันทึกเสียงการสนทนากับฮุนเซนในประเด็นพื้นที่พิพาทริมชายแดน ผลที่เกิดขึ้นทำให้ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อคืนนี้ ด้านณพล จาตุศรีพิทักษ์ นักวิชาการจากสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak Institute ของสิงคโปร์ ชี้รัฐบาลปัจจุบันอาจล่มอีกไม่นานนี้
- 5. “Tesla งานเข้า หลังทรัมป์เตรียมสอบสวนสถานะเข้าเมืองของ Musk - ยอดขายตก ผู้บริหารลาออก” Tesla อยู่ในจุดที่ยากลำบากหลังจาก Elon Musk ซีอีโอของบริษัทเข้ามาดูแลการขายในยุโรปและสหรัฐฯ ด้วยตนเอง หลังผู้บริหารคนสำคัญลาออก นอกจากนั้นตลาดยังคาดว่ายอดขายรถยนต์ลดลงราว 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยังมีข่าวทรัมป์ขู่สอบสถานสถานการณ์เข้าเมืองของ Elon Musk ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทหลังตลาดปิด (after market) ลดลงราว 7% ไปอยู่ที่ 300.71 ดอลลาร์ต่อหุ้น
|
|