XAM Daily Xpresso / 1 กรกฎาคม 2025




XAM Shot

  • “หุ้นสหรัฐฯ ยังไปต่อ หลังกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ดันดัชนี เมินสงครามการค้า – ทรัมป์ระบุจะเรียกเก็บกำแพงภาษีจากญี่ปุ่นเพิ่ม หลังญี่ปุ่นไม่ยอมรับข้าวส่งออกจากสหรัฐฯ”

Things you need to know

  • 1. “หุ้นสหรัฐฯ ยังไปต่อ หลังกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ดันดัชนี” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 0.52% ไปอยู่ที่ 6,204.95 จุด สาเหตุสำคัญมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Meta ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล หลังจากข่าวปรับโครงสร้างองค์กรและแผนการลงทุนด้าน AI อีกหลายแสนล้านดอลลาร์ และ Oracle ที่ได้ลงนามในดีลคลาวด์ที่มีมูลค่ารวมว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ รายได้ใหญ่กว่ามูลค่าของแผนกคลาวด์ในปัจจุบันทั้งแผนก รวมถึงข่าว Apple จะใช้ AI จาก OpenAI และ Anthropic กับ Siri แทนที่จะพัฒนาโมเดลของตัวเอง
  • 2. “Bloomberg เผย ผู้เข้าซื้อกิจการ TikTok คือกลุ่มเดิม” สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวของตนเองว่า กลุ่มที่จะเข้าซื้อกิจการของ TikTok ตามที่ทรัมป์กล่าวอ้างนั้นคือผู้ลงทุนกลุ่มเดิม ที่ประกอบด้วย Oracle, Blackstone และ Andreessen Horowitz ซึ่งนักลงทุนทั้งหมดเคยมีชื่อเป็นผู้สนใจเสนอซื้อกิจการมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ต้องหยุดไปหลังจากทรัมป์ประกาศกำแพงภาษีตอบโต้กับจีน ก่อนที่จะกลับมาเจรจาอีกครั้งหนึ่ง โดยต้องปิดดีลภายในเดือนกันยายนนี้ตามเวลาเส้นตายที่ทรัมป์เลื่อนออกมาเป็นครั้งที่ 3
  • 3. “ทรัมป์ระบุจะเรียกเก็บกำแพงภาษีจากญี่ปุ่นเพิ่ม หลังญี่ปุ่นไม่ยอมรับข้าวส่งออกจากสหรัฐฯ” ทรัมป์แสดงท่าทีไม่พอใจดังกล่าวหลังจากที่ญี่ปุ่นไม่ยอมกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้รับข้าวส่งออกจากสหรัฐฯ เข้าประเทศ และระบุว่าจะส่งหนังสือแจ้งกำแพงภาษีอย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลญี่ปุ่น ด้านสหภาพยุโรปส่งคณะเจรจาไปยังสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้ โดยหนึ่งในข้อเจรจาคือ EU ยอมรับกำแพงภาษีที่ 10% แต่ขอโควต้าและการยกเว้นในบางรายการแทน อย่างไรก็ตามทรัมป์กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับสหภาพยุโรปมากนัก
  • 4. “New World Development รอดพ้นวิกฤติ หลังสถาบันการเงินปล่อยกู้” โดยยอดเงินสินเชื่อรวมอยู่ที่ 8.82 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง นับเป็นยอดเงินกู้ที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง และเป็นการต่อชีวิตให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของเกาะฮ่องกง ที่กำลังจะถึงยอดชำระหนี้หุ้นกู้ในอีกไม่นานนี้ ในข้อตกลงดังกล่าวบริษัทต้องนำอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งของฮ่องกง รวมถึงห้าง K11 Musea ตรงย่าน Tsim Tsa Tsui มาวางเป็นหลักประกัน
  • 5. “ความคาดหวังลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ มีผลงานโดดเด่น” Bloomberg รวบรวมสถิติ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน พบว่าตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ มีผลงานที่โดดเด่นมากในรอบ 5 ปีสำหรีบครึ่งปีแรกของปีนี้ คิดเป็นผลตอบแทนรายเดือนที่ 0.9% ต่อเดือน สาเหตุมาจากความคาดหวังของตลาดที่มองว่าจะมีการลดดอกเบี้ยลง โดย Goldman Sachs ประเมินว่าจะลดดอกเบี้ยได้ภายในเดือนกันยายนนี้


Daily Trend

  • “ตลาดกลับมาโฟกัสกับสงครามการค้า” หลังความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลจบลงชั่วคราว ตลาดหันกลับมาให้ความสนใจกับประเด็นของสงครามการค้าที่ช่วงเวลาการเลื่อนบังคับใช้กำลังจะหมดลงในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ หลายฝ่ายประเมินว่าข้อตกลงทางการค้าที่ยังไม่มีการสรุปออกมานอกจากอังกฤษ อาจทำให้ทรัมป์ต้องเลือกเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีกอย่างน้อยก็จนถึงภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากหากบังคับใช้จริงอาจส่งผลกับสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ของสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทต่างๆ ยังมีเวลาไม่มากพอสำหรับการเตรียมตัว ทั้งนี้หากเกิดการบังคับใช้กำแพงภาษีจริง ภูมิภาคที่โดนเก็บน้อยอย่างละตินอเมริกา หรือ ออสเตรเลีย จะเป็นภูมิภาคอันดับต้นๆ ที่ได้ประโยชน์
  • “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ผลสำรวจเศรษฐกิจของ BOJ (Tankan) ผู้ผลิตรายใหญ่ตลาดคาด 10 หน่วยสำหรับไตรมาส 2, Caixin Manufacturing PMI ของจีนที่ 49.2 หน่วย, ความมั่นใจของผู้บริโภคญี่ปุ่น ตลาดคาด 32.5 หน่วย, เงินเฟ้อยุโรปที่ 0.3% MoM/2% YoY, ISM Manufacturing PMI ที่ 49.2 หน่วย และ JOLTs Job Openings ที่ 7.1 ล้านตำแหน่ง