XAM Daily Xpresso/ 24 เมษายน 2025

• “นักกลยุทธ์การลงทุนสหรัฐฯ บ่นหนัก หลังตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงเคลื่อนไหวตามทรัมป์ – SK Hynix ทำรายได้เกิดคาดของตลาด หลังธุรกิจหน่วยความจำแบนด์วิธสูงยังทำรายได้ดี"

• 1. “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนหนัก จนนักกลยุทธ์การลงทุนบ่น” สถานการณ์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ยังอยู่ในสภาวะที่ผันผวนอย่างหนัก ทำให้ Jay Woods หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนสากลของ Freedom Capital Markets บริษัทบริการด้านการลงทุนสำหรับนักลงทุนสถาบัน ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าสถานการณ์เช่นนี้น่าอึดอัดมาก เนื่องจากสภาพการลงทุนขึ้นอยู่กับทิศทางและนโยบายทางการเมืองของทรัมป์เป็นสำคัญ ด้าน Bank of America ชี้ว่านักลงทุนสถาบันเริ่มเทขายหุ้นสหรัฐฯ ออกเรื่อยๆ จากความไม่มีเสถียรภาพของนโยบาย

• 2. “รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่าข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจไม่ได้ออกมาเร็ว” สาเหตุสำคัญคือทรัมป์คงไม่ยอมลดกำแพงภาษีลงแต่เพียงฝ่ายเดียว แม้จะมีท่าทีที่เปิดกว้างหลังจากการพูดคุยกับผู้บริหารและตัวแทนของบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ แล้วก็ตาม และต้องการให้จีนเข้าสู่การเจรจาแต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ The Wall Street Journal รายงานว่าแผนการลดภาษีลงจะลดลงเหลือในช่วง 50-65% โดยเฉลี่ย ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าที่เกี่ยวข้อง ด้าน Financial Times รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาลดกำแพงภาษีสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์จากจีน

• 3. “SK Hynix ทำกำไรไตรมาสแรกของปีนี้เกินคาด” โดยทำรายได้รวม 17.64 ล้านล้านวอน (12.36 พันล้านดอลลาร์) มากกว่าคาดที่ 17.26 ล้านล้านวอน ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.44 ล้านล้านวอน มากกว่าคาดที่ 6.62 ล้านล้านวอน รายได้เพิ่มขึ้น 42% YoY แต่ลดลง -11% QoQ ส่วนกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 158% YoY แต่ลดลง -8% QoQ สาเหตุสำคัญคือความต้องการหน่วยความจำแบนด์วิธสูง (HBM) ยังคงมีอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้าน Counterpoint Research ระบุว่า SK Hynix มีส่วนแบ่งในตลาด HBM ในเชิงรายได้ที่ราว 70%

• 4. “TSMC ประกาศเดินเครื่องเทคโนโลยีการผลิต A14 ในปี 2028” โดยเป็นการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต 2 นาโนเมตรที่จะเริ่มต้นผลิตช่วงปลายปีนี้เพิ่มเติม ทำให้ชิปที่ผลิตจากเทคโนโลยีนี้ได้ความเร็วเพิ่มอีก 15% หรือลดการใช้พลังงานลงได้อีก 30% ณ ความเร็วที่เท่ากัน ขณะที่ยังเพิ่มความหนาแน่นของชิปได้อีก 20% ในขนาดเท่าเดิม และมองว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีรายได้ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษนี้

• 5. “กลุ่มสินค้าหรูเริ่มลำบาก หลังเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัว กำแพงภาษีพุ่ง” โดย Kering เจ้าของแบรนด์ Gucci ที่รายได้กว่า 60% มาจากแบรนด์นี้ ระบุว่ายอดขายไตรมาสแรกลดลง -25% YoY ทำให้รายได้ของบริษัทโดยรวมลดลง -14% YoY ด้าน Louis Vuitton แบรนด์สินค้าหรูจากฝรั่งเศสของ LVMH ประกาศขึ้นราคากระเป๋ารุ่น Neverfull GM แตะระดับ 2,200 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ หลังเจอกำแพงภาษี ส่วน EssilorLuxottica บริษัทผลิตแว่นตาและเลนส์แว่นตาชื่อดังของโลก ราคาหุ้นปรับลดลงแม้รายได้ไตรมาสแรกจะเกินคาดของตลาด เนื่องจากตลาดกังวลผลกระทบจากกำแพงภาษีที่จะมีผลกับราคาสินค้าและกำไรของบริษัทในไตรมาสถัดไป

• “สงบชั่วคราว แต่ยังไม่แน่นอน” แม้ความตึงเครียดด้านสงครามการค้าจะหยุดชั่วคราว เนื่องจากการเลื่อนเวลาบังคับใช้กำแพงภาษี และเทศกาลหยุดอีสเตอร์ที่เป็นช่วงหยุดยาวของชาติตะวันตก ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ เหมือนสงบลงชั่วคราว อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวยังคงต้องจับตาตลอดช่วงเวลาที่เหลือจากนี้ไปจนกว่าช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่เข้าใกล้เส้นตายการบังคับใช้กำแพงภาษีส่วนเพิ่ม ที่ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้ายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และจะยังคงกดดันสินทรัพย์ต่างๆ ไปอีกสักพักใหญ่ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้โอกาสที่ประเทศของกลุ่มตลาดเกิดใหม่สามารถลดดอกเบี้ยได้เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ขณะที่สหรัฐฯ เองมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ Stagflation เพิ่มขึ้น โอกาสที่ FED
• “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลข ifo Business Climate ของเยอรมนีที่ 85.5 หน่วย, ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ คาด 1.2% MoM และยอดขายบ้านเดิมที่ 4.18 ล้านหลังของสหรัฐฯ

XSpring AM