Things you need to know
- 1. “ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์” ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อคืนนี้ นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ ANZ ระบุว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ทองคำราคาพุ่งสูงขึ้นนอกจากความกังวลของตลาดด้านปัจจัยสงครามการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว ยังมีความกังวลของตลาดที่เกรงว่าการเติยโตของสหรัฐฯ อาจไม่ได้สูงในปีนี้ ทำให้เกิดการเทขายหุ้นและเงินดอลลาร์ออกมาเพื่อเปลี่ยนไปถือทองคำที่ตลาดมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) เมื่อคืนนี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ +0.14%
- 2. “ดัชนี S&P 500 ปิดปรับตัวบวกเล็กน้อย แม้ผันผวนระหว่างชั่วโมงซื้อขาย” โดยปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.55% ไปอยู่ที่ระดับ 5,611.85 จุด อย่างไรก็ตามดัชนีมีความผันผวนอย่างหนักตลอดชั่วโมงการซื้อขายเมื่อคืนนี้ สาเหตุสำคัญมาจากความกังวลของตลาดเรื่องกำแพงภาษีที่ทรัมป์จะประกาศในคืนวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทยที่ยังไม่มีรายละเอียดออกมาอย่างชัดเจน ทำให้ยากต่อการประเมินและตลาดกังวลว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ส่วนดัชนี NASDAQ 100 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ -0.02% ไปอยู่ที่ 19,278.45 จุด ปิดไตรมาสแรกของปีแย่ที่สุดในรอบ 3 ปี
- 3. “รัฐบาลจีนเปิดศึกงัดข้อกับ CK Hutchison ปมขายท่าเรือให้ BlackRock” หลังจากเริ่มปล่อยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาผ่านสื่อของรัฐบาล ล่าสุดรัฐบาลจีนเปิดการสอบสวนดีลขายท่าเรือทั่วโลก 43 แห่งยกเว้นในจีนและฮ่องกงของ Hutchison Ports บริษัทลูกในเครือของ CK Hutchison พร้อมแจ้งให้หน่วยงานรัฐของจีนหยุดการทำธุรกิจกับกลุ่มบริษัทหลังจากนี้ ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญจาก Gavekal Dragonomics ประเมินว่าบริษัทมีแต่เสียกับเสีย เพราะหากดีลยังไปต่ออาจถูกทางการจีนสั่งปรับ ขณะที่หากล้มเลิกการขายท่าเรือก็อาจถูกมองว่าบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับของจีน
- 4. “ผลสำรวจเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังเป็นบวก” ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยผลสำรวจธุรกิจ (Tankan) ไตรมาสแรกของปี 2025 ตัวเลขดีขึ้นเกือบทุกมิติและมากกว่าที่ตลาดคาดเกือบทุกกลุ่ม โดยธุรกิจผู้ผลิตขนาดใหญ่ผลสำรวจอยู่ที่ 12 หน่วย, มุมมองต่อเศรษฐกิจภาคการผลิตขนาดใหญ่อยู่ที่ 12 หน่วย, ภาคบริการขนาดใหญ่อยู่ที่ 35 หน่วย, ภาคบริการทั่วไปอยู่ที่ 28 หน่วย และภาคการผลิตขนาดเล็กที่ 2 หน่วย ทั้งนี้ตลาดยังคงประเมินว่า BOJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ
- 5. “รัฐมนตรีของ New Zealand ระบุวีซ่าย้ายประเทศผ่านการลงทุนของตนเองเสียงตอบรับดีมาก” รัฐมนตรีด้านการย้ายถิ่นฐานของ New Zealand ระบุระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าวีซ่า Active Investor Plus ซึ่งเป็นโครงการวีซ่าสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการของประเทศที่เพิ่งเปิดให้ยื่นในวันนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากผู้สนใจจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถือสัญชาติสหรัฐฯ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเปิดทางให้นักลงทุนที่มีเงินเริ่มต้น 5 ล้านนิวซีแลนด์ดอลลาร์ (ราว 96 ล้านบาท) และพร้อมลงทุน 3 ปี ได้วีซ่าอยู่อาศัยในประเทศถาวร
|
|
ไทย
English
+0.01%
