XAM Daily Xpresso / 27 มีนาคม 2025




XAM Shot

  • “ทรัมป์ประกาศขึ้นกำแพงภาษีรถยนต์นำเข้า 25% ทำหุ้นสหรัฐฯ ร่วง - โบรคใหญ่ปรับเป้า S&P 500 ลดลง หลังกังวลความไม่แน่นอนนโยบายการค้า”

Things you need to know

  • 1. “ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีรถยนต์ 25% ทำตลาดหุ้นปรับตัวลดลง” เมื่อคืนนี้ดัชนี S&P 500 ปิดปรับตัวลดลง -1.12% ไปอยู่ที่ 5,712.20 จุด สาเหตุสำคัญมาจากนโยบายภาษีการค้ารอบใหม่ที่ทรัมป์ประกาศว่าจะขึ้นภาษีรถยนต์ที่ไม่ได้ผลิตนอกสหรัฐฯ ในอัตรา 25% มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนเป็นต้นไป ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทรถยนต์ในสหรัฐฯ ร่วงอย่างหนัก ประกอบกับแรงเทขายในกลุ่มเทคโนโลยีที่กลับมาถูกเทขายอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตลาดยังคงกังวลผลกระทบต่อเนื่องจากการใช้กำแพงภาษี ซึ่งอาจกระทบกับกำไรของบริษัทในสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ท้ายสุดแล้วอาจพาสหรัฐฯ เข้าสู่สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อ
  • 2. “Barclays – UBS ประสานเสียง กังวล S&P 500 จากผลกระทบการค้า” Barclays ปรับเป้าดัชนี S&P 500 ปีนี้ลดลงจาก 6,600 จุด เหลือเพียง 5,900 จุด หลังกังวลสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของนโยบายการค้า ด้าน UBS เตือนว่าปัจจัยพื้นฐานโดยเฉพาะคาดการณ์รายได้ของสหรัฐฯ การจ้างงาน ไปจนถึงการชะลอตัวของการบริโภค เริ่มชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับที่อื่นทั่วโลก และมองว่าดัชนีอาจปรับตัวลดลงได้อีกราว 8% แตะระดับ 5,300 จุด
  • 3. “Starlink ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนามทดลองให้บริการ” การทดลองให้บริการนี้มีอายุ 5 ปี และสามารถมีลูกค้าได้สูงสุดไม่เกิน 6 แสนราย นอกจากนี้ยังสามารถให้บริการกับพาหนะทั้งเรือและเครื่องบินได้ ทำให้สายการบินแห่งชาติของเวียดนามสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินได้ หากการทดลองให้บริการเป็นไปได้ด้วยดีในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ รัฐบาลเวียดนามสามารถพิจารณาอนุมัติให้ในอนุญาตถาวรเทียบเท่าบริษัทโทรคมนาคมอื่นๆ ในประเทศกับ Starlink ได้ ด้านบริษัทเคยรับปากว่าจะลงทุนในเวียดนามมูลค่ารวม 1.5 พันล้านดอลลาร์
  • 4. “Nissan แต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ ระบุพร้อมเป็นพันธมิตรกับ Honda” เมื่อวานนี้ Ivan Espinosa ประธานเจ้าหน้าที่บริการฝ่ายวางแผนและว่าที่ซีอีโอคนใหม่ ระบุพร้อมเป็นพันธมิตรกับ Honda และบริษัทอื่นนอกอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ของบริษัท รวมถึงการประกาศว่าเขาจะเร่งให้ทีมงานออกรถยนต์ใหม่ที่มาจากการออกแบบภายในระยะเวลา 30 เดือนนับจากนี้ จากเดิมที่กินระยะเวลานานถึง 50-52 เดือน
  • 5. “รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เริ่มเดินทางเยือนเอเชีย” โดยจะเดินทางไปยังฟิลิปปินส์ในวันที่ 28-29 มีนาคม และญี่ปุ่นเป็นลำดับถัดไป การบินเยือนเอเชียดังกล่าว Hegseth จะหารือกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในประเด็นการคุกคามของจีนในทะเลจีนใต้ที่ช่วงหลังจีนสร้างเกาะและเริ่มอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำจนเกิดเหตุปะทะระหว่างกองเรือจีนและฟิลิปปินส์หลายครั้ง ส่วนญี่ปุ่นมีกำหนดการหารือกับรัฐบาลญี่ปุ่นในประเด็นใกล้เคียงกัน ทั้งนี้สหรัฐฯ มีพันธะที่จะต้องปกป้องฟิลิปปินส์ตามสนธิสัญญาเมื่อปี 1951 ที่มีลักษณะคล้ายสนธิสัญญา NATO

Daily Trend

  • “ความเสี่ยง Stagflation เพิ่มขึ้น” การแถลงข่าวของประธาน FED หลังการประชุม FOMC ที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นได้และการเติบโตชะลอตัวลงจากสงครามการค้า คือเรื่องที่มีความสำคัญแม้จะมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงสามารถไปได้ดีในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากเป็นการบ่งชี้ความเสี่ยง Stagflation หรือเงินเฟ้อสูงการเติบโตต่ำได้เป็นอย่างดี รวมถึงความกังวลว่าเงินเฟ้อในประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐฯ จะลดลง ทำให้ธนาคารกลางของประเทศเหล่านั้นต้องรีบลดดอกเบี้ยนโยบาย เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ตราสารหนี้ประเทศกำลังพัฒนาได้รับความสนใจจากตลาดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ TS Lombard มองว่าตราสารหนี้ประเทศกำลังพัฒนามีโอกาสที่จะได้รับผลบวกจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในครั้งนี้
  •  “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 4/2024 ตลาดคาด 2.3% QoQ และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายใหม่ คาด 2.25 แสนราย

XSpringAM